tag:blogger.com,1999:blog-54427260323711008202024-02-19T23:42:50.168-08:00โรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัยmrreoehttp://www.blogger.com/profile/01130759167789267382noreply@blogger.comBlogger2125tag:blogger.com,1999:blog-5442726032371100820.post-14252702848039953442012-01-21T07:38:00.000-08:002012-01-21T07:38:47.623-08:00<div dir="ltr" style="text-align: left;" trbidi="on"><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"></div><h1 id="watch-headline-title"><span class="long-title" dir="ltr" id="eow-title" title="เพลงมาร์ชบุญวาทย์วิทยาลัย">เพลงมาร์ชบุญวาทย์วิทยาลัย </span></h1><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><iframe allowfullscreen='allowfullscreen' webkitallowfullscreen='webkitallowfullscreen' mozallowfullscreen='mozallowfullscreen' width='320' height='266' src='https://www.youtube.com/embed/5fdzm0Qym8Y?feature=player_embedded' frameborder='0'></iframe></div><h1 id="watch-headline-title"><span class="long-title" dir="ltr" id="eow-title" title="เพลงมาร์ชบุญวาทย์วิทยาลัย"> </span></h1><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><iframe allowfullscreen='allowfullscreen' webkitallowfullscreen='webkitallowfullscreen' mozallowfullscreen='mozallowfullscreen' width='320' height='266' src='https://www.youtube.com/embed/AvMV9UodD70?feature=player_embedded' frameborder='0'></iframe></div><h1 id="watch-headline-title"><span class="long-title" dir="ltr" id="eow-title" title="เพลงมาร์ชบุญวาทย์วิทยาลัย"> </span></h1><h1 id="watch-headline-title"><span class="long-title" dir="ltr" id="eow-title" title="[Skoolbuz Clip Contest] เพลงจุดไฟแห่งฝัน">เพลงจุดไฟแห่งฝัน </span></h1><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><iframe allowfullscreen='allowfullscreen' webkitallowfullscreen='webkitallowfullscreen' mozallowfullscreen='mozallowfullscreen' width='320' height='266' src='https://www.youtube.com/embed/slctcL8nl3s?feature=player_embedded' frameborder='0'></iframe></div><div id="alerts"> </div><div id="watch-container" itemscope="" itemtype="http://schema.org/VideoObject"><link href="http://www.youtube.com/watch?v=SAIMANJ-u0I" itemprop="url"></link> <link href="http://i4.ytimg.com/vi/SAIMANJ-u0I/hqdefault.jpg" itemprop="thumbnailUrl"></link> <link href="http://www.youtube.com/v/SAIMANJ-u0I?version=3&autohide=1" itemprop="embedURL"></link> <div id="watch-headline-container"> <div class="watch-headline" id="watch-headline"> <h1 id="watch-headline-title"> <span class="long-title" dir="ltr" id="eow-title" title="เพลงบุญวาทย์รวมใจก้าวไกลสู่สากล"> เพลงบุญวาทย์รวมใจก้าวไกลสู่สากล </span></h1><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><iframe allowfullscreen='allowfullscreen' webkitallowfullscreen='webkitallowfullscreen' mozallowfullscreen='mozallowfullscreen' width='320' height='266' src='https://www.youtube.com/embed/SAIMANJ-u0I?feature=player_embedded' frameborder='0'></iframe></div><h1 id="watch-headline-title"><span class="long-title" dir="ltr" id="eow-title" title="เพลงบุญวาทย์รวมใจก้าวไกลสู่สากล"> </span> </h1></div></div></div><h1 id="watch-headline-title"><span class="long-title" dir="ltr" id="eow-title" title="[Skoolbuz Clip Contest] เพลงจุดไฟแห่งฝัน"> </span></h1><h1 id="watch-headline-title"><span class="long-title" dir="ltr" id="eow-title" title="เพลงมาร์ชบุญวาทย์วิทยาลัย"> </span></h1><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"></div><br />
</div>mrreoehttp://www.blogger.com/profile/01130759167789267382noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5442726032371100820.post-46247515823522023022009-05-13T00:01:00.000-07:002011-09-20T07:40:59.806-07:00ประวัติการก่อตั้งโรงเรียน<div dir="ltr" style="text-align: left;" trbidi="on">
<span style="font-size: small;">โรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัยเป็นโรงเรียนรัฐบาลแห่งแห่งแรกของจังหวัดลำปาง<br />ตั้งขึ้นเมื่อประมาณ รศ.๑๑๗ (พ.ศ. ๒๔๔๑ ) ณ วัดพระแก้วดอนเต้า<br />ต่อมาราว รศ. ๑๑๘ ( พ.ศ. ๒๔๔๒ ) ได้ย้ายไปอยู่ที่วัดสุชาดา แล้วย้ายไปอยู่ที่วัดแสงเมืองมา<br />ในราว รศ. ๑๑๙ ( พ.ศ. ๒๔๔๓ )..... ภายหลังเจ้าบุญวาทย์วงษ์มานิต เจ้าผู้ครองนครในสมัยนั้น<br />ได้ย้ายโรงเรียนจากวัดแสงเมืองมามาอยู่ที่หน้าคุ้มของท่าน นักเรียนเพิ่มมากขึ้น<br />สถานที่เรียนไม่เพียงพอต่อจำนวนนักเรียน เจ้าบุญวาทย์ฯ จึงได้ซื้อที่ดินบริเวณห้างกิมเซ่งหลี<br />(ปัจจุบันคือโรงแรมอรุณศักดิ์ )<br />ซึ่งตั้งอยู่ที่ตำบลน้ำล้อม อำเภอเมืองลำปาง แล้วย้ายโรงเรียนจากหน้าคุ้มมาตั้ง<br />ณ ที่แห่งใหม่....<br />ครั้นถึง รศ. ๑๒๔ ( พ.ศ. ๒๔๔๘ ) สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้ามหาวชิราวุธสยามมกุฎราชกุมาร<br />ได้เสด็จต่างพระเนตรพระกรรณพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบรมชนกนาถประพาสหัวเมืองฝ่ายเหนือ<br />ได้เสด็จมาทรงเปิดโรงเรียน เมื่อวันที่ ๒๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๔๘<br />พระราชทานนาม โรงเรียนว่า " บุญวาทย์วิทยาลัย "<br />ตามราชทินนามของเจ้าบุญวาทย์ฯ ผู้ครองนครเพื่อเป็นเกียรติยศแก่ท่าน<br />ปรากฏหลักฐานในพระราชนิพนธ์ " ลิลิตพายัพ " ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว<br />ซึ่งทรงใช้พระนามแฝง " หนานแก้วเมืองบูรพ์ " ว่า<br />" วันที่ซาวหกนั้น เสด็จไปทรงเปิดโรงเรียนไทย<br />ฤกษ์เช้าบุญวาทย์วิทยาลัย ขนานชื่อ ประทานนอเป็นเกียรติยศแด่เจ้า ปกแคว้นลำปาง "<br />.... โรงเรียนบุญวาทย์จึงถือเอาวันที่ ๒๖ พฤศจิกายนของทุกปี เป็นวันสถาปนาโรงเรียนสืบมา<br />หลังจากโรงเรียนบุญวาทย์ได้ย้ายออกมาหน้าคุ้ม เจ้าบุญวาทย์ได้ตั้งโรงเรียนใหม่ขึ้นอีกโรงเรียนหนึ่ง<br />ตรงที่หอพระบริเวณสวนดอกไม้ในคุ้มหลวง เพื่อให้บุตรหลานของเจ้าพ่อได้เรียนแล้วขยายรับเด็กที่อยู่บริเวณใกล้ๆด้วย<br />โรงเรียนนี้ไม่มีชื่อ แต่คนนิยมเรียกว่าโรงเรียนเจ้าชื่น ต่อมาย้ายโรงเรียนมาอยู่ตรงหน้าคุ้ม<br />และได้ชื่อว่า " โรงเรียนบุญทวงศ์อนุกูล " ตามชื่อเดิมของเจ้าบุญวาทย์ฯ<br />แต่ชาวบ้านมักเรียกว่าโรงเรียนหน้าคุ้ม ภายหลังโรงเรียนแห่งนี้ได้ย้ายมาเรียนรวมกับโรงเรียนบุญวาทย์ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๒..... ปี พ.ศ. ๒๔๗๔ สถานที่เรียน ( บริเวณห้างกิมเซ่งหลี ) คับแคบเกินกว่าที่จะรองรับนักเรียนที่เพิ่มปริมาณมากขึ้น จึงย้ายโรงเรียนมาตั้งอยู่นอกกำแพงเมือง ( คือสถานที่ตั้งของโรงเรียนบุญวาทย์ปัจจุบัน ) ในเนื้อที่ ๔๐ ไร่ ๑งาน ๔ ๔ ๔ ตารางวาต่อมาโรงเรียนบุญวาทย์ได้ขยายชั้นเรียนเพิ่มขึ้นและก่อสร้างอาคารเรียนเพิ่มเติมมาตามลำดับเพื่อให้สอดคล้องกับการขยายตัวของการศึกษาและจำนวนนักเรียนในโรงเรียน ในเนื้ที่ขยายออกไปเป็น ๔๔ ไร่ ๓ งาน ๕๔ ตารางวา.... ปี พ.ศ. ๒๔๙๐ เปิดชั้นเตรียมอุดมศึกษาของจังหวัดลำปาง และสร้างอาคารวิทยาศาสตร์โดยใช้เงินงบประมาณและรายได้จากการจัดงานฤดูหนาวของจังหวัดลำปาง โดยมีผู้มีจิตศรัทธาบริจาคสมทบทุนด้วย .... และตั้งแต่วันที่โรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัย ได้สถาปนามาจนกระทั่งเมื่อวันที่ ๒๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๒๔ โรงเรียนได้มีอายุครบ ๑๐๐ ปี เป็นร้อยปีแห่งความภาคภูมิใจที่ได้สั่งสมมายายนาน ได้สร้างเยาชนที่มีคุณภาพให้แก่ท้งถิ่นและประเทศชาติเกือบ ๑๐๐ รุ่น จึงนับได้ว่าเป็นร้อยปีแห่งความภาคภูมิใจและเกียรติคุณอย่างแท้จริง </span><br />
<div>
<span style="font-size: small;">เจ้าพ่อบุญวาทย์ วงษ์มานิต ผู้ก่อตั้งโรงเรียน</span><span style="font-size: small;">พลตรีมหาอำมาตย์โทเจ้าบุญวาทย์วงษ์มานิต (หนานบุญทวงศ์ ณ ลำปาง) เจ้าผู้ครองนครลำปาง นายทหารพิเศษกรมทหารบกราบที่ ๑๗ นครลำปาง สมภพเมื่อ พ.ศ. ๒๔๐๐ เป็นบุตรเจ้านรนันทไชยชวลิต ผู้ครองนครลำปาง และเป็นเหลนของเจ้าคำโสม ผู้ครงอนครลำปางคนที่ ๔..... พลตรีเจ้าบุยวาทย์วงษ์มานิต เป็นผู้ที่มีความมั่นคงซื่อสัตย์หนักแน่น จงรักภักดีต่อราชวงศ์จักรี ได้สละที่ดินและทุนทรัพย์สร้างถาวรวัตถุให้ทางราชการ เช่น โรงเรียนบุญวาทย์วิทยลัย ที่ทำการไปรษณีย์ และอาคารหมวดเสนารักษ์ในค่ายทหาร</span></div>
<div>
<span style="font-size: small;"><br /></span><span style="font-size: small;">นามเดิม<br />บุญทวงศ์<br />สมภพ<br />๖ พฤศจิกายน ๒๔๐๐ (จ.ศ. ๑๒๑๙) ตรงกับวันศุกร์<br />แรมค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะเส็ง ณ ตำบลหัวเวียง อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง<br />บิดา เจ้านรนันท์ไชยชวลิต<br />มารดา เจ้าแม่ฟองแก้ว<br />การศึกษา<br />- ศึกษาหนังสือไทยเหนือในสำนัก อภิไชย วัดเชียงมั่น นครลำปาง -<br />ศึกษาหนังสือไทยกลางที่บ้าน (คุ้ม) เนื่องจากขณะนั้นยังไม่มีโรงเรียน<br />อุปสมบท<br />สำนักพระปัญญา วัดสวนดอก นครลำปาง<br />รับราชการ<br />พ.ศ. ๒๔๒๘ ตำแหน่งพนักงานในกองมหาดไทย<br />พ.ศ. ๒๔๓๖ ตำแหน่งเสนามหาดไทยและคลัง<br />๔ มกราคม ๒๔๓๓ เป็น “ เจ้าราชสัมพันธ์วงษ์ ”<br />๒๓ พฤศจิกายน ๒๔๓๘ ตำแหน่งเจ้าอุปราชเมืองลำปาง<br />๒ ตุลาคม ๒๔๔๐ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งให้เป็นเจ้าผู้ครองนครลำปงสืบแทนบิดา มีนามจารึกในสุพรรณบัตรว่า “ เจ้าบุญวาทย์วงษ์มานิต สามันตวิชิตประเทศราช บริษัษย์นารถทิพจักราธิวงษ์ ดำรงโยนวิไสย อภัยรัษฎารักษ์ อุดมศักดิสัตยาธิวรางค์ ลำปางมหานัคราธิปไตย เจ้าผู้ครองนครลำปาง ”<br />เกียรติคุณและผลงาน<br />ใ นฐานะเจ้าครองนครลำปาง พลตรี มหาอำมาตย์โท เจ้าบุญวาทย์ฯ ได้บำเพ็ญกรณียกิจอันเป็นประโยชน์ต่อนครลำปางและเป็นคุณต่อประเทศชาติเป็นอเนกประการ อาทิ<br />ด้านการทหารและการป้องกันนคร<br />ได้ระดมชาวเมืองต่อสู้ป้องกันนครจากเงี้ยวที่ก่อการจลาจล ยกกำลังเข้าตีนครลำปางเมื่อเดือนสิงหาคม ๒๔๔๕ จนปราบปรามเงี้ยวราบคาบ การที่ท่านระดมพลเมืองเป็นทหารรบพุ่งทำสงครามทำให้เกิดมีกองทหารนครลำปางขึ้น และเพื่อความเป็นปึกแผ่นมั่นคงของกิจการทหานท่านได้อุทิศที่ดินสร้างโรงทหาร โรงพยาบาลทหาร นับว่าท่านเป็นผู้ริเริ่มและวางรากฐานด้านการทหารให้แก่นครลำปาง<br />ด้านการศึกษา<br />การศึกษาของเยาวชนลำปางแต่เดิมอยู่ที่วัดพลตรี มหาอำมาตย์โทเจ้าบุญวาทย์ฯ ได้สนใจติดตามความเคลื่อนไหวด้านการจัดการศึกษาของส่วนกลาง แล้วนำมาปรับปรุงเปลี่ยนแปลงระบบการศึกษาของนครลำปาง นำการศึกษาแบบสอนภายในโรงเรียนเข้ามาแทนการศึกษาในวัดเป็นครั้งแรก เมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๗ ณ สถานที่ตั้งโรงเรียนเทศบาล ๓ (บุญทวงศ์อนุกูล) ปัจจุบัน<br />ภายหลังท่านได้สละทรัพย์ส่วนตัวซื้อที่ดินและตึกของห้างเซ่งหลีสร้างโรงเรียนขึ้นอีกแห่งหนึ่งแล้วมอบให้เป็นของรัฐ<br />ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๔๔๘ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ขณะดำรงอิสริยยศเป็นสยามมกุฎราชกุมารได้เสด็จประพาสหัวเมืองฝ่ายเหนือ เมื่อเสด็จถึงนครลำปางได้ทรงพระกรุณาเสด็จทรงเปิดโรเงรียนใหม่นี้เมื่อวันที่ ๒๖ พฤศจิกายน และพระราชทานนามว่า “ โรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัย ” เพื่อเป็นอนุสรณ์แด่พลตรี มหาอำมาตย์โท เจ้าบุญวาทย์วงษ์มานิต เจ้าผู้ครอง นคร<br />พลตรี มหาอำมาตย์โท เจ้าบุญวาทย์ฯ เล็งเห็นความสำคัญของการศึกษาว่าจำเป็นยิ่งต่อการพัฒนานครลำปาง ท่านจึงส่งบุตรหลานของท่านและประชาชนลำปางทีท่านคัดเลือกว่ามีสติปัญญาความสามารถไปศึกษาต่อที่กรุงเทพมหานคร โดยให้อยู่ในความดูแลของกระทรวงหมาดไทย เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้วบบุคลเหล่านี้ก็ได้กลับมาทำงานรับใช้ท้องถิ่นต่อไป<br />ด้านศาสนา<br />ท่านได้ให้ความอุปถัมภ์แก่วัดต่างๆโดยทั่วถึง สละทรัพย์สินส่วนตนเพื่อบำรุงศาสนา ทั้งด้านการก่อสร้างและศาสนกิจต่างๆ ด้วยความศรัทธาเลื่อมใสอย่างแท้จริง<br />อนึ่ง เพื่อให้พระสงษ์ในจังหวัดลำปาง ได้มีความรู้ความเข้าใจ ในเรื่องพระศาสนาดียิ่งขึ้น ท่านได้ส่งพระสงษ์ไปศึกษา ณ วัดมหาธาตุ กรุงเทพมหานครอีกด้วย<br />ด้านอุตสาหกรรม<br />ได้จัดตั้งโรงงานทอผ้าและโรงงานฟอกหนังขึ้น น่าจะนับว่าเป็นโรงงานฟอกหนังแห่งแรกของประเทศไทยก็ว่าได้ เพระมีก่อนโรงงานฟอกหนังที่กรุงเทพมหานคร นับว่าท่านเป็นผู้ที่มีความคิดก้าวหน้าและเห็นการณ์ไกลในด้านอุตสาหกรรม อันเป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งในการพัฒนาเศรษฐกิจของบ้านเมือง<br />และรวมถึงด้านการคมนาม ด้านดนตรี และ สาธารณกุศล ถือเป็นเกียรติคุณที่ พลตรี มหาอำมาตย์โท เจ้าบุญวาทย์วงษ์มานิต ได้ทำไว้เพื่อประโยชน์ต่อชาวลำปางสืบต่อไป </span></div>
<div>
<span style="font-size: small;"> ด้วยความปรารถนาจะสร้างอนุสรณ์สถานเพ่อเทิดเกียรติพ่อเจ้าบุญวาทย์ฯ ณ วันที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๑๖ สมัยนายสุเชฎฐ วิชชวุต เป็นอาจารย์ใหญ่และ นายสุนทร สุวรรณอัตถ์ เป็นนายกสมาคม ได้มีการประชุมคณะกรรมการสมาคมนักเรียนเก่าบุญวาทย์ฯ ร่วมกับคณะผู้บริหารโรงเรียน ที่ประชุมลงมติให้จัดสร้างอนุสาวรีย์ พลตรี มหาอำมาตย์โท เจ้าบุญวาทย์วงษ์มานิต ขึ้น เพื่อเป็นการประกาศเกียรติคุณและสัการบูชา เป็นการแสดงความกตัญญูกตเวทิตาต่อท่านผู้สถาปณาโรงเรียน ต่อมาเมื่อวันที่ ๑๓ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๑๗ สมัยนายเจือ หมายเจริญ เป็นอาจารย์ใหญ่ นายพินิจ จันทรสุรินทร์ เป็นนายกสมาคมฯ มีมติให้จัดทำเหรียญพ่อเจ้าบุญวาทย์ฯ ให้ประชาชนชาวลำปาง เช่าบูชาโดยกราบนิมนต์ ครูบาเจ้า หลวงพ่อเกษม เขมโก ปห่งสุสานไตรลักษณ์ แผ่เมตตาปลุกเสกการจัดทำเหรียญดังกล่าวมาสำเร็จในสมัย นายสมชาย นพเจริญ เป็นผู้อำนวยการโรงเรียน โดยผ่านการติดต่อประสานงานทาง เจ้าบุญส่ง ณ ลำปาง และเจ้าประเวทย์ ณ ลำปาง ครูบาเจ้าหลวงพ่อเกษม เขมโก ได้เมตตาปลุกเสก พร้อมทั้งเมตตามอบทุนจำนวน ๔๐๐,๐๐๐ บาท โดยกำหนดวัตถุประสงค์ว่าให้เป็นทุนสำหรับการสร้างอนุสาวรีย์ ๒๐๐,๐๐๐ บาท และสร้างอาคารสมาคม ๒๐๐,๐๐๐ บาท แตหากเงินสำหรับสร้างอาคารสมาคมฯมาสมทบได้..... กองหัตถศิลป์ กรมศิลปากรได้เป็นผู้ออกแบบและปั้นอนุสาวรีย์ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช ได้ทรงเป็นประธานเททองหล่อ ศาสตราจารย์นายแพทย์บุญสม มาร์ติน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการในสมัยนั้น เป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์ฐานอนุสาวรีย์และอัญเชิญอนุสาวรีย์ ขึ้นประดิษฐาน เมื่อวันที่ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๒๑ กระทำพิธีเปิดอนุสาวรีย์เ<br />พระพุทธเกษมมิ่งมงคล<br />.... พระพุทธเกษมมิ่งมงคล เป็นพระพุทธปฏิมาประจำโรงเรียนบุญวาทย์ ประดิษฐานอยู่ในศาลาพระพุทธ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย หลวงพ่อเกษม เขมโก เป็นผู้มอบให้แก่โรงเรียน .... ภายในศาลายังประดิษฐาน พระพุทธรูปปางมารวิชัย ซึ่งได้รับบริจาคจาก พลโท อำพล - คุณสินีย์ จุลานนท์ พระพุทธรูปปางมารวิชัยที่ได้รับบริจาคจากพระสำเร็จ จิตคุตฺโต และรูปหล่อหลวงพ่อเกษมเขมโก ซึ่งได้รับบริจาคจากคุณเดชา และคุณจิตรา สินธุเขียว รูปหล่อนี้หลวงพ่อได้อธิษฐานจิตเองด้วย<br />.... ศาลาพระพุทธหลังนี้ จัดสร้างเพื่อเป็นอนุสรณ์แด่หลวงพ่อเกษม เขมโก พระอริยสงฆ์เจ้าแห่งจังหวัดลำปางสร้างด้วยไม้สักทั้งหลัง จำลองแบบจากพระวิหารเจ้าแม่จามเทวี วัดปงยางคก อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง ตามคำแนะนำของอาจารย์สมพงษ์ ตันติกุลวรชัย ผู้ถอดแบบ คือ อาจารย์เกษม มหาวรรณ ภายใต้การอำนวยการของอาจารย์สายสมร เจริญจันทร์แดง อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนบุญวาทย์ฯ โดยมีอาจารย์สมบูรณ์ ยศสมแสน อดีตผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงเรียนบุญวาทย์ฯ เป็นประธานการก่อสร้าง อาจารย์ยอดยิ่ง นุชนิยม เป็นฝ่ายจัดหาทุน โดยได้รับความเมตตาจากหลวงพ่อเกษม เขมโก ประเดิมทุนจำนวน ๓๐๐ , ๐๐๐ บาท คณาจารย์ตลอดจนศรัทธาสาธุชนร่วมบริจาครวมเงินค่าก่อสร้างประมาณ ๑,๓๐๐ , ๐๐๐ บาท<br />ศาลเจ้าพ่อกว้าน<br />.... เมื่อก้าวเข้าสู่ประตูด้านหน้าของบุญวาทย์วิทยาลัย จะสะดุดกับ " ศาล " ทรงไทยที่ตั้งเด่นเป็นสง่าน่าเกรงขามอยู่เบื้องขวามือของประตูโรงเรียน ครูและนักเรียนบุญวาทย์ที่ผ่านเข้าออกประตูนี้ จะยกมือประนมไหว้หรือก้มศีรษะเพื่อคารวะ " เจ้าพ่อ " ที่ประทับอยู่ในศาลนี้ นักเรียนบุญวาทย์ที่เข้าใหม่ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ และปีที่ ๔ จะต้องมาสักการะ " ฝากตัว " เบื้องหน้าศาลที่พวกเขารู้จักในนาม " ศาลเจ้าพ่อกว้าน "<br />" เจ้ากว้าน " คือใคร มาจากใหน เหตุใดจึงเป็นที่เคารพนับถือของชาวบุญวาทย์และชาวนครลำปาง " แหลนน้อย " ได้เขียนเล่าไว้ในหนังสือ " ที่ระลึก วันครบ ๖๐ ปี บุญวาทย์ " ว่า<br />" เจ้ากว้าน " เป็นเจ้าพ่อศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ความสำคัญของเจ้ากว้านคงพอๆ กับเจ้าพ่อหลักเมือง ทั้งนี้สันนิษฐานจากการเซ่นสังเวยทุกครั้งที่มีการสังเวยเจ้าพ่อหลักเมือง จะต้องแบ่งครึ่งหนึ่งของเซ่นไปสังเวยเจ้าพ่อกว้านอยู่เสมอ เมื่อเกิดศึกสงครามทหารจะออกรบ หรือเมื่อตำรวจตามจับผู้ร้ายสำคัญ จะต้องไปบวงสรวงเจ้ากว้านเสียก่อน เครื่องเซ่นมีมีหมูดำปลอด ๑ ตัว ไก่คู่ ตีนหมู ( สี่ตัว ) วัวกีบผึ้ง หางไหม ๑ ตัว สมัยก่อนไม่มีที่นั่ง ( ม้าขี่คนทรง ) การบวงสรวงตกเป็นหน้าที่ของลุงแก่ๆ คนหนึ่ง ชื่อลุงแสน ภวังค์ความศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าพ่อนั้น เป็นที่นับถือตั้งแต่เจ้าผู้ครองนครมาจนถึงราษฏรสามัญ ทุกๆปีจะมีการบวงสรวงเซ่นไหว้ประจำปีในเดือน ๙ เหนือ แรม ๕ค่ำ ไม่มีการเชิญเข้าทรงและฟ้อนฝี ดังเช่นปัจจุบัน "<br />ศาลเจ้ากว้านเดิมตั้งอยู่หลังบ้านพักผู้พิษากษา หัวหน้าศาล ถนนบุญวาทย์ เป็นศาลทรงไทยขนาดใหญ่ กว้ายาวประมาณ ๑๐ คูณ ๒๐ เมตร สร้างด้วยไม้สัก สลักลวดลายที่หน้าจั่วอย่างสวยงาม เป็นศาลตัดสินความของทางราชการ ภายในศาลมีแท่นสำหรับเจ้านาย หรือบัลลังก์ของจ่าบ้าน หรือผู้พิพากษา<br />สมัยโบราณ เมื่อมีคดีความที่จะต้องพิพากษาตัดสินก่อนจะให้การต่อศาล คู่กรณีต้องไปสาบานต่อหน้าหอเล็กๆ ที่กล่าวนี้ คือ ที่สิงสถิตของเจ้าพ่อกว้าน และศาลสถิตยุติธรรมก็พลอยมีชื่อเรียกว่า ศาลเจ้าพ่อกว้านตามไปด้วย<br />ต่อมามีการสร้างศาลยุติธรรมขึ้นใหม่ ( ศาลจังหวัดปัจจุบัน ) การชำระคดี จึงได้ย้ายไปทำกันที่ศาลใหม่ ทางการจึงได้รื้อศาลเจ้าพ่อกว้านหลังเดิมมาสร้างขึ้นใหม่ในบริเวณโรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัย เพื่อเป็นการอนุรักษ์เอาไว้ เมื่อประมาณ พ.ศ. ๒๔๗๙ และโรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัยได้ใช้ศาลเจ้ากว้านเป็นสโมสรลูกเสือ และใช้เป็นสถานที่อบรมครูจังหวัด ต่อมาได้ใช้เป็นห้องเรียนของนักเรียน ชั้น ม. ๑ นักเรียนบุญวาทย์ครั้งนั้นจึงได้ชื่อว่าเป็นลูกเจ้ากว้านด้วย<br />ในพ.ศ. ๒๔๙๗ โรงเรียนได้งบประมาณก่อสร้างอาคารเรียนหลังใหม่ ซึ่งมีเนื้อที่ครอบคลุมถึงบริเวณศาลเจ้าพ่อกว้าน ดังนั้นศาลเจ้าพ่อกว้านเดิมจึงถูกรื้อถอน บางส่วนของชิ้นไม้ที่ประกอบเป็นศาลถูกนำไปเก็บรักษาที่พิพิธภัณฑ์วัดเมืองศาสน์บ้าง วัดพระแก้วดอนเต้าบ้าง และทางโรงเรียนได้สร้างศาลเล็กๆ ขึ้นมาแทน เพื่อเป็นที่สถิตย์ของเจ้าพ่อกว้าน ต่อมาได้ย้ายมาสร้างใหม่ให้ใหญ่โตสวยงามขึ้น ณ บริเวณที่ตั้งปัจจุบัน<br />ทุกครั้งที่มีงานสำคัญ หรือมีกิจกรรมของโรงเรียน ครูและนักเรียนบุญวาทย์ฯ จะไปบอกกล่าวขอความคุ้มครอง ขอกำลังใจจากเจ้าพ่อกว้าน ทุกคนสำนึกว่า นอกจากความเป็นลูกเจ้าพ่อบุญวาทย์ฯ เลือดแดง - ขาวแล้ว ชาวบุญวาทย์ฯ ยังเป็นลูกเจ้าพ่อกว้านด้วย<br />ไม่ว่าโลกแห่งวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีจะเจริญก้าวหน้าไปเพียงใด " เจ้าพ่อกว้าน " ก็ยังคงเป็นมิ่งขวัญและที่ยึดเหนี่ยวทางใจของลูกบุญวาทย์ตลอดไป มื่อวันที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๒๑</span></div>
</div>
mrreoehttp://www.blogger.com/profile/01130759167789267382noreply@blogger.com0